การเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นเป้าหมายสำคัญในชีวิตของนักเรียนหลายคน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีพื้นฐานหรือรู้สึกว่าตัวเองเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่น สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ข้อสอบหรือเนื้อหาที่มากมาย แต่คือความรู้สึกท้อแท้และไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ซึ่งความจริงแล้ว ติวสอบเข้ามหาลัยทุกคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ตราบใดที่มีความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และแผนการที่ชัดเจน การเริ่มต้นติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบไม่มี
พื้นฐานอาจดูเหมือนเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่หากเข้าใจวิธีการและแนวทางที่ถูกต้อง ทุกคนสามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงสิ่งแรกที่ควรทำคือการเปลี่ยนทัศนคติของตนเองก่อน การที่ไม่มีพื้นฐานไม่ได้แปลว่าไม่มีศักยภาพ ติวสอบเข้ามหาลัยแต่เพียงแค่ยังไม่ได้เริ่มต้นหรือได้รับการปูพื้นอย่างถูกวิธีเท่านั้น ความกลัว ความไม่มั่นใจ และการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นมักจะเป็นอุปสรรคสำคัญของคนที่เริ่มจากศูนย์ จึงต้องเปลี่ยนวิธีคิดให้มองว่าตนเองมีจุดเริ่มต้นที่ชัดเจน ติวสอบเข้ามหาลัยและจากจุดนี้สามารถไต่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ได้เหมือนการปีนบันได
ในช่วงแรกของการติว อาจรู้สึกว่าทำอะไรไม่ทันหรือเข้าใจยาก
เมื่อใจพร้อมแล้ว สิ่งต่อมาคือการสำรวจสนามสอบที่ตนเองต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัยในระบบ TCAS เช่น การสอบวิชาสามัญ, GAT-PAT หรือวิชาเฉพาะต่าง ๆ ขั้นตอนนี้สำคัญมากเพราะการรู้ว่าจะต้องสอบวิชาอะไรบ้าง จะช่วยให้วางแผนการอ่านหนังสือและการติวได้อย่างเป็นระบบ คนไม่มีพื้นฐานอาจเริ่มจากการเข้าไปดูข้อสอบย้อนหลัง เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าแต่ละวิชาถามในลักษณะใด ติวสอบเข้ามหาลัยความยากอยู่ที่จุดไหน แล้วจึงย้อนกลับมาดูว่าเนื้อหาในข้อสอบเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับหัวข้อใดในหนังสือเรียนหลังจากนั้นให้เริ่มจากการปูพื้นฐานของวิชาหลัก ๆ ที่ต้องสอบ เช่น คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา วิธีที่ดีที่สุดสำหรับคนไม่มีพื้นฐานคือการอ่านจากหนังสือระดับมัธยมต้นหรือหนังสือสรุปเนื้อหาที่เขียนแบบเข้าใจง่าย อย่ากังวลว่ามันเป็นหนังสือของเด็ก ติวสอบเข้ามหาลัยเข้าใจพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าการอ่านเนื้อหาขั้นสูงแบบไม่เข้าใจ โดยอาจเริ่มจากหัวข้อที่ง่ายและค่อย ๆ เพิ่มระดับความยากขึ้น อย่าข้ามขั้นตอน หรือพยายามไปเร็วเกินไป ติวสอบเข้ามหาลัยเพราะการสร้างรากฐานต้องใช้เวลาควรจัดตารางเวลาเรียนรู้แบบสม่ำเสมอ แบ่งเวลาตามความสามารถของตนเอง เช่น เริ่มจากวันละ 2 ชั่วโมง แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาขึ้นเมื่อเริ่มเข้าใจมากขึ้น
สิ่งที่สำคัญคือความอดทน ไม่ยอมแพ้ และหมั่นให้กำลังใจตัวเองเสมอ
ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของการเรียนมากกว่าปริมาณ การนั่งอ่านหนังสือนาน ๆ แต่ไม่เข้าใจ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย วิธีที่ดีกว่าคือการเรียนแบบมีเป้าหมาย เช่น วันนี้จะเข้าใจเรื่องเศษส่วนในคณิตศาสตร์ให้ได้ หรือจะจำคำศัพท์ 20 คำให้แม่น เป็นต้นการหาครูสอนพิเศษออนไลน์หรือเรียนผ่านคลิปวิดีโอใน YouTube ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คนไม่มีพื้นฐานเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คอร์สติวสอบเข้ามหาลัยเพราะสามารถเลือกเรียนหัวข้อที่ตนเองไม่เข้าใจและย้อนดูซ้ำได้ตามต้องการ
ปัจจุบันมีสื่อการสอนฟรีจำนวนมากที่ผลิตโดยติวเตอร์คุณภาพดี ซึ่งสามารถใช้แทนการเรียนในห้องเรียนแบบเดิมได้อย่างไม่ด้อยกว่า การใช้แอปพลิเคชันช่วยจำอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการทำแบบฝึกหัดและข้อสอบเก่าอย่างสม่ำเสมอ เพราะการฝึกฝนจะช่วยให้สมองจดจำรูปแบบข้อสอบและแนวคิดในการแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ติวสอบเข้ามหาลัยเริ่มจากข้อสอบง่าย ๆ แล้วค่อยไปหาข้อสอบที่ใกล้เคียงกับของจริงมากขึ้นทุกวัน เมื่อทำแล้วต้องตรวจคำตอบอย่างละเอียด
